เนื้อจระเข้ โลละ 70 บาท ตีตลาด หมูแพง ไก่ขึ้นราคา

เนื้อจระเข้ โลละ 70 บาท ตีตลาด หมูแพง ไก่ขึ้นราคา

เนื้อจระเข้ โลละ 70 ชาวเน็ตลั่นนาทีนี้ต้องลองแล้ว หลัง หมูแพง ไก่ ไข่ขึ้นราคา ชาวเน็ตมองเป็นทางเลือก เอาตัวรอดจากวิกฤตแพงทั้งแผ่นดิน เนื้อจระเข้ กิโลกรัมละ 70 บาท ซึ่งประกาศขายบนเฟซบุ๊กสร้างความฮือฮาให้โลกโซเชียลไม่น้อย โดยเฉพาะชั่วโมงนี้ที่ราคาปากท้องพร้อมใจกันขึ้นราคา หมูแพง ไก่ ไข่ขึ้นราคาโดยเมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา เฟซบุ๊กแฟนเพจ จำหน่ายเนื้อจระเข้ ลอกหนังแบบยกตัว 

เฮียสักฟาร์ม ได้ลงโพสต์ประกาศขาย เนื้อจระเข้ พร้อมร่ายรายละเอียด จำหน่ายในกิโลกรัมละ 70 บาท เป็นเนื้อไอ้เคี่ยมเลี้ยงด้วยวิธีธรรมชาติ ไม่มีสารเร่งเนื้อแดง สดทุกวัน อีกทั้งยังทำได้หลายเมนู เหตุที่ทำให้ เนื้อจระเข้ โลละ 70 บาท เรียกความสนใจจากคนจำนวนมาก เพราะปัจจุบันราคาสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะ เนื้อหมู เนื้อไก่ และ ไข่ไก่ ต่างพาเหรดกันขึ้นราคาชนิดหาทางลงกันไม่เจอ

ราคาเนื้อหมูวันนี้ (13 ม.ค.65) ข้อมูลจากตลาดสี่มุมเมือง หมูเนื้อแดง 180 บาท/กก. ราคาเนื้อไก่ ไก่บ้าน กก.ละ 120 บาท ส่วน ไข่ไก่ เบอร์ 0 ราคา 4.20 บาทต่อฟอง สองข้อมูลหลังอ้างอิงราคาจากเว็บไซต์ตลาดนัดเกษตรไพรซ์ เมื่อเทียบราคาต่อหน่วยจึงทำให้ เนื้อจระเข้ กิโลกรัมละ 70 บาทนี้ อาจไม่ใช่แค่กระแสบนโซเชียล แต่อาจเป็นทางเลือก สำหรับการเอาตัวรอดจากความ แพงทั้งแผ่นดิน เที่ยวนี้

“เนื้อแต่ละส่วนรสชาติยังไงคะ มันน้อย มันมาก ถ้าชอบแบบนุ่มๆ ไม่แห้งเหมือนไก่ ต้องสั่งส่วนไหนคะ 5-10 โลค่าส่งเท่าไหร่”

“70 เนื้อส่วนไหนครับ”

“ส่วนไหนอร่อยสุด ไม่เคยกินมาก่อน”

“สั่งขั้นต่ำกี่โลครับ อยากลองดูก่อน แล้วเนื้อส่วนไหนที่นิยมนำมาทำอาหารบ้างครับ พวกผัด หรือปิ้งย่าง แบบนี้อ่ะครับ” ความคิดเห็นบางส่วนจากโพสต์ประกาศขายเนื้อจระเข้ ของเพจเฮียสักฟาร์ม ซึ่งมีคนแห่กดไลค์กว่าพันครั้ง และแชร์ต่อไปแล้วกว่า 11,000 ครั้ง

โฆษก เผย นายก ห่วงสถานการณ์ ‘ราคาสินค้าอุปโภคบริโภค’ ปรับขึ้นสูง

โฆษกรัฐบาลเผย “นายกฯ” ห่วงสถานการณ์ ราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ปรับตัวสูงขึ้น กระทบค่าครองชีพของประชาชน มอบ พาณิชย์-พลังงาน หารือผู้ประกอบการ ตรึงราคาสินค้าจำเป็นเร่งด่วน

วันที่ 13 ม.ค. 65 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์การปรับ ราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ขณะนี้ โดยเฉพาะในหมวดอาหารสดหลายประเภทที่มีการทยอยปรับราคาสูงขึ้น พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แสดงความห่วงกังวล และได้เร่งให้หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพลังงาน เร่งติดตาม หารือกับผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น เพื่อตรึงราคาสินค้าในการช่วยลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการติดตามมาตรการช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วนนั้น หลายหน่วยงานได้เร่งดำเนินการเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน

โดย กระทรวงพาณิชย์ได้มีการหารือกับบริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ตรา “มาม่า” เพื่อไม่ให้มีการปรับขึ้นราคามาม่าซองประเภทที่เป็นสินค้ามวลชน และเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมในท้องตลาดทั้งประเทศ เพื่อเป็นการช่วยลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชนในสถานการณ์ปัจจุบัน

ขณะที่ กระทรวงพลังงาน โดยคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติตรึงราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) ต่ออีก 2 เดือนที่ราคา 318 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 31 มกราคม 2565 เป็นวันที่ 31 มีนาคม 2565

พร้อมทั้งขอความร่วมมือ บมจ.ปตท. (PTT) พิจารณาช่วยเหลือส่วนลดราคาก๊าซ LPG แก่ผู้มีรายได้น้อยที่เป็นร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหาร ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ ปตท. ดำเนินการต่อไปจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2565

อีกทั้ง ให้คงราคาขายปลีกก๊าซ NGV ที่ 15.59 บาท/กิโลกรัม และคงราคาขายปลีกก๊าซ NGV โครงการ “เอ็นจีวี เพื่อลมหายใจเดียวกัน” ให้กับผู้ประกอบอาชีพขับขี่รถแท็กซี่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่ 13.62 บาท/กิโลกรัม ต่อไปอีกเป็นระยะเวลา 1 เดือน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565 ถึงวันที่ 15 มีนาคม 2565

นายธนกร กล่าวว่า “สถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่ปรับตัวสูงขึ้น เป็นผลมาจากกลไกราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลต่อต้นทุนการผลิต ต้นทุนสินค้า และค่าขนส่ง ทั้งนี้ รัฐบาลได้เร่งวางมาตรการทั้งระยะสั้น-ยาว เร่งติดตามหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น โดยในเบื้องต้น จะเป็นการขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการและภาคเอกชน เพื่อให้ตรึงราคาสินค้าบางส่วนที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของประชาชน ไม่ให้กระทบต่อค่าครองชีพ”