อดีต ‘เจ้าหญิงมาโกะ’ และสามีเช่าอพาร์ทเม้นท์ในนิวยอร์ก เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ต่างประเทศ หลังสละฐานันดรศักดิ์ตามกฎของญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน สำนักข่าว BBC รายงานว่านาง มาโกะ โคมุโระ หรือ อดีตเจ้าหญิงมาโกะ ได้เดินทางถีงประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมกับสามีแล้ว หลังจากที่ อดีตเจ้าหญิงมาโกะ สละฐานันดรศักดิ์ราชวงศ์ญี่ปุ่น หลังจากที่เธอแต่งงานกับนาย เคย์ โคมุโระ แฟนหนุ่ม ในช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
โดยทั้งคู่จะเช่าอพาร์ทเม้นท์ขนาดหนึ่งห้องนอนในนครนิวยอร์ก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ใกล้กับสำนักงานกฎหมายสถานที่ทำงานของสามีเธอ
เส้นทางการแต่งงานของทั้งสองเต็มไปด้วยอุปสรรคมากมาย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นาย โคมุโระตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์จากปัญหาทางการเงินของมารดา ซึ่งมีประเด็นติดค้างหนี้ราวล้านบาท กับอดีตคู่หมั้น โดยมีการอ้างว่าเงินจำนวนนั้นถูกใช้เป็นค่าเล่าเรียนของนายโคมุโระ
ซึ่งฝ่ายชายได้มีการออกแถลงการณ์ชี้แจงไปแล้วเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา และยืนยันว่าต้องการแต่งงานกับเจ้าหญิงมาโกะเช่นเดิม ซึ่งจากประเด็นนี้ทำให้พิธีวิวาห์ถูกเลื่อนออกไปนานสองปี
นอกจากนี้อดีตเจ้าหญิงปฏิเสธเงินอุดหนุนการแต่งงานสำหรับเชื้อพระวงศ์หญิงราว 44 ล้านบาท และปฏิเสธที่จะจัดงานพิธีวิวาห์ตามราชประเพณี ซึ่งถือเป็นสมาชิกราชวงศ์พระองค์แรกนับตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่สองที่ปฏิเสธการเข้าพิธีวิวาห์ตามราชประเพณี
โปรตุเกส ออก กฏหมาย ฉบับใหม่สั่งห้าม นายจ้าง ติดต่องานลูกน้องนอกเวลางาน และต้องเคารพความเป็นส่วนตัว ฝ่าฝืนโดนปรับเงิน เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน สำนักข่าว CNN รายงานว่า ทางประเทศโปรตุเกส ได้ออกกฏหมายฉบับใหม่ที่ระบุว่า ห้ามผู้ว่าจ้างติดต่อลูกจ้างนอกเวลางาน ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อด้วยโทรศัพท์มือถือ, ข้อความ หรือ อีเมล์
โดยผู้ว่าจ้างต้องเคารพความเป็นส่วนตัวของพนักงาน ซึ่งรวมถึงช่วงเวลาพักผ่อนและช่วงที่พนักงานอาศัยอยู่กับครอบครัว พร้อมระบุว่าผู้ใดฝ่าฝืนจะต้องเจอโทษร้ายแรง และ อาจถูกปรับเงินได้
มาตราการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายฉบับใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานจากที่บ้าน โดยพนักงานสามารถเลือกจะไม่ทำงานที่บ้าน แต่หากพนักงานมีความประสงค์ที่จะทำงานจากบ้าน พวกเขาก็สามารถร้องขอได้เช่นกัน หากงานของเขาสามารถปฏิบัติจากบ้านของตนเองได้ พร้อมสั่งให้ทางบริษัทเยียวยาค่าใช้จ่ายหากค่าไฟฟ้า หรือ ค่าก๊าซ เพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้กฎหมายฉบับดังกล่าวมีความคล้ายคลึงกับกฎหมายในประเทศฝรั่งเศสที่ระบุว่าพนักงานมีสิทธิ์ที่จะไม่ตอบอีเมลล์งานได้หากอยู่นอกเวลาทำงาน
WHO ขอเวลาศึกษา โควิดโอไมครอน ย้ำความสำคัญของวัคซีน
องค์การอนามัยโลก ขอเวลาศึกษา โควิดโอไมครอน เพิ่ม ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าโควิดชนิดนี้รุนแรงหรือแพร่เชื้อได้ง่ายกว่าโควิดสายพันธุ์อื่นหรือไม่ องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้เผยแพร่ข้อความลงเว็บไซต์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการศึกษาโควิดโอไมครอน โควิดกลายพันธ์ุที่เป็นที่จับตาและสร้างความกังวลให้กับประชาชนทั่วโลกเป็นอย่างมาก
โดยทางองค์การอนามัยโลกระบุว่าขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันว่าโควิดสายพันธุ์ดังกล่าวสามารถแพร่เชื้อกว่าโควิดธรรมดาหรือโควิดสายพันธุ์อื่นหรือไม่ แม้ว่ายอดผู้ป่วยในทวีปแอฟริกาจะเพิ่มสูงขึ้น แต่ยังคงต้องรอการศึกษาเพิ่มเติมว่าเป็นเพราะโอไมครอน หรือเป็นเพราะปัจจัยอื่นๆ
เช่นเดียวกันทาง WHO ยังไม่สามารถยืนยันได้เช่นเดียวกันว่าโควิดโอไมครอนมีความรุนแรงกว่าโควิดสายพันธุ์อื่นๆ โดยปัจจุบันมีผู้ป่วยในทวีปแอฟริกาใต้ที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น แต่จำนวนที่เพิ่มขึ้นอาจจะเพิ่มตามยอดผู้ป่วยใหม่ที่ทะยานตัวสูงขึ้น เบื้องต้นยังไม่พบว่าผู้ป่วยโควิดโอไมครอนมีอาการป่วยที่ต่างออกไป
ซึ่งทาง WHO ยังระบุอีกว่า การที่ทางนักวิจัยจะเข้าใจถึงความรุนแรงของโอไมครอนได้ อาจจะต้องใช้เวลานานเป็นวันถึงหลายสัปดาห์
ในส่วนของวัคซีนนั้น ทางองค์การอนามัยโลกกำลังศึกษาร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ว่าโอไมครอนส่งผลกระทบต่อวิธีการป้องกันโควิด รวมถึงวัคซีนโควิดได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม WHO ได้ย้ำถึงความสำคัญของวัคซีน โดยและ ขอให้มีการกระจายวัคซีนให้ทั่วถึงโดยเร็วที่สุด
เกิดเหตุประหลาดๆขึ้นใน แคนาดา หลังจากที่มีชายถือขวาน ปล้นพิซซ่า จากคนส่งอาหาร เคราะห์ดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน สำนักข่าว โกลบอล นิวส์ รายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจในรัฐ วินนิเป็ก ประเทศแคนาดา เร่งตามล่า หาชายที่ถือขวานที่ทำการขัดขวางการส่งพิซซ่าของพนักงานส่งพิซซ่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 8.40 น. ของวันพฤหัสบดี ตามเวลาท้องถิ่น
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าคนส่งพิซซ่าเจอชายถือขวานขวางเขา และเรียกร้องให้คนส่งพิซซ่านำพิซซ่ามาให้เขา ด้วยความตกใจคนส่งพิซซ่าจึงรีบหลบหนี และไม่ได้รับบาดเจ็บ แม้ว่าผู้ก่อเหตุจะวิ่งไล่เขาเป็นระยะเวลาสั้น
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าหากประชาชนคนใดมีข้อมูลเพิ่มเติมสามารถแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป